สุขภาพ

ภาวะ การคลั่งการช็อปปิ้ง คืออะไร แและมักจะเกิดขึ้นกับใคร ส่งผลเสียอย่างไรบ้าง

ภาวะการคลั่งการช็อปปิ้ง หรือที่เรียกว่า “Shopping Addiction” หรือ “Compulsive Buying Disorder” เป็นสภาวะทางจิตใจที่บุคคลไม่สามารถควบคุมความอยากซื้อสินค้าได้ ถึงแม้ว่าจะไม่จำเป็นหรือไม่มีความสามารถทางการเงินในการซื้อสินค้าเหล่านั้นก็ตาม การซื้อของในลักษณะนี้จะไม่ถูกกระตุ้น

โดยความจำเป็นในการใช้สินค้า แต่จะเป็นผลจากความรู้สึกต้องการตอบสนองอารมณ์ หรือใช้การซื้อของเป็นวิธีหลีกเลี่ยงความเครียด ความเศร้า หรือความเบื่อหน่าย

 อาการและลักษณะของภาวะการคลั่งการช็อปปิ้ง

  1. ความต้องการซื้ออย่างต่อเนื่อง: บุคคลนั้นจะมีความรู้สึกต้องการซื้อสินค้าหรือบริการอยู่เสมอ แม้ว่าจะไม่มีความจำเป็นในการใช้สินค้านั้นจริงๆ
  2. ความตื่นเต้นจากการซื้อสินค้า: การซื้อของทำให้รู้สึกตื่นเต้น และความตื่นเต้นนี้จะนำไปสู่การซื้อมากขึ้น โดยไม่มีการพิจารณาอย่างรอบคอบถึงผลกระทบต่อการเงินหรือความจำเป็น
  3. การใช้การซื้อของเป็นวิธีระบายความเครียด: บุคคลมักจะซื้อของเพื่อบรรเทาความเครียด ความเศร้า หรือความเบื่อหน่าย
  4. ความรู้สึกผิดหลังจากการซื้อ: หลังจากการซื้อของ บุคคลมักจะรู้สึกผิด เสียใจ หรือรู้สึกว่าตนเองขาดความรับผิดชอบในการควบคุมตนเอง
  5. การสะสมหนี้สิน: บุคคลที่มีภาวะนี้มักจะสะสมหนี้สินจากการซื้อของที่ไม่จำเป็น และบางครั้งถึงขั้นทำให้ตนเองมีปัญหาทางการเงิน

 

ภาวะการคลั่งการช็อปปิ้งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพศหรือวัยใดก็ตาม อย่างไรก็ตาม มักพบในกลุ่มคนดังต่อไปนี้:

  1. ผู้หญิง: การวิจัยพบว่าผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะมีภาวะการคลั่งการช็อปปิ้งมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากสังคมและวัฒนธรรมมักกระตุ้นให้ผู้หญิงสนใจในสินค้าแฟชั่นและความสวยงามมากขึ้น
  2. วัยรุ่นและวัยทำงาน: คนในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานมักเป็นกลุ่มที่มีภาวะการคลั่งการช็อปปิ้ง เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่ต้องการยืนยันตัวตนและภาพลักษณ์ในสังคม
  3. ผู้ที่มีความเครียดหรือภาวะซึมเศร้า: การซื้อของอาจถูกใช้เป็นวิธีระบายความเครียดหรือคลายความทุกข์ ทำให้ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าหรือเครียดมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะนี้

 

ภาวะการคลั่งการช็อปปิ้งสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตประจำวันของบุคคล เช่น:

  1. ปัญหาทางการเงิน: การซื้อของที่ไม่จำเป็นอย่างต่อเนื่องอาจทำให้บุคคลนั้นสะสมหนี้สินอย่างมาก จนกระทบต่อความสามารถในการจัดการเงินและก่อให้เกิดความเครียดเพิ่มขึ้น
  2. ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง: ภาวะนี้อาจนำไปสู่ปัญหาในความสัมพันธ์กับครอบครัวหรือเพื่อน เนื่องจากบุคคลนั้นอาจไม่สามารถจัดการการเงินของตนได้อย่างเหมาะสมและทำให้เกิดความขัดแย้ง
  3. ปัญหาทางจิตใจ: การซื้อของอาจเป็นการระบายความเครียดในระยะสั้น แต่จะทำให้บุคคลรู้สึกผิดและเศร้าหลังจากนั้น ทำให้เกิดวงจรของความเครียดและการซื้อของอย่างต่อเนื่อง

 

ภาวะการคลั่งการช็อปปิ้งเป็นปัญหาทางจิตใจที่สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตของบุคคล โดย  คาสิโน เวียดนาม ดานัง   เฉพาะทางด้านการเงินและความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง การตระหนักถึงปัญหาและการขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับภาวะนี้

สุขภาพ

น้ำส้มสายชูมีดีกว่าที่คุณคิด 

น้ำส้มสายชู   เป็นสิ่งที่คุณแม่บ้านทุกคนต้องมีติดครัวกันอย่างแน่นอนเนื่องจากว่าน้ำส้มสายชูนั้นมีประโยชน์อย่างมากมายซึ่งเราจะใช้ในการปรุงอาหารทำให้อาหารมีรสเปรี้ยวก็ได้หรือจะใช้น้ำส้มสายชูเพื่อเป็นส่วนผสมในการล้างทำความสะอาดผักก็ได้เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำส้มสายชูนั้นยังมีประโยชน์ในเรื่องของการทำความสะอาดคราบหินปูนต่างๆได้ด้วย

ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะวิธีการใช้น้ำส้มสายชูขจัดคราบในการทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆว่าเราสามารถนำน้ำส้มสายชูไปทำความสะอาดอะไรได้บ้าง 

สำหรับน้ำส้มสายชูแล้วหากเรานำไปปรุงอาหารก็จะสามารถรับประทานได้แต่ถ้าเรานำน้ำส้มสายชูไปผสมกับส่วนผสมอื่นๆเราก็จะสามารถแปรรูปของน้ำส้มสายชูให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำความสะอาดได้เช่นเดียวกัน

ยกตัวอย่างเช่นค่าหินปูนที่อยู่ในหม้อต้มกาแฟซึ่งโดยปกติแล้วเป็นคราบที่ทำความสะอาดได้ยากมากแต่ถ้าหากว่าเราต้องการที่จะทำความสะอาดสามารถทำได้ง่ายนิดเดียวเพียงแค่นำน้ำส้มสายชูเทลงไปในหม้อต้มกาแฟผสมกับน้ำเปล่า  โดยใช้อัตราส่วน 1:1 

หลังจากนั้นก็เปิดเครื่องทำกาแฟให้ทำงานตามปกติเมื่อน้ำในหม้อต้มกาแฟเดือดให้ถอดปลั๊กแล้วนำน้ำในหม้อต้มกาแฟมาเทออกคุณจะสังเกตเห็นได้เลยว่าคราบที่อยู่ในหม้อต้มกาแฟนั้นจะหายไป 

 

หลังจากนั้นให้เรานำหม้อต้มกาแฟไปล้างทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่งเพียงเท่านี้เหมาะสมกับกาแฟก็สามารถใช้งานได้ตามปกติและไม่เกิดคราบสกปรก  ซึ่งวิธีการทำความสะอาดนี้เราควรจะทำความสะอาดบ่อยๆเพื่อไม่ให้เกิดคราบฝังแน่น 

นอกจากน้ำส้มสายชูจะทำความสะอาดหม้อต้มกาแฟได้แล้วยังใช้เป็นส่วนผสมกับเบกกิ้งโซดาหรืออาจจะผสมกับน้ำมะนาวหรือจะผสมกับน้ำยาล้างจานเพื่อใช้ทำความสะอาดคราบฝังแน่นในห้องน้ำก็ได้เช่นเดียวกันซึ่งโดยปกติและวิธีการนี้ผู้คนมักจะนิยมทำกันเป็นอย่างมากเพราะไม่ส่งผลเสียต่อพื้นกระเบื้องนั่นเอง

นอกจากนี้ผู้คนยังใช้ประโยชน์จากน้ำส้มสายชูในการขจับคาบฝังแน่นในเสื้อผ้าซึ่งถ้าหากว่าเสื้อผ้าของใครเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเหลืองแล้ว

แล้วก็การใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำยาซักผ้าแล้วนำผ้าสีเหลืองนั้นไปแช่เอาไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมงแล้วนำมาซักทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่งรับรองได้เลยว่าคุณจะได้เสื้อผ้าสีขาวกับมาอย่างแน่นอน 

อย่างไรก็ตามประโยชน์ของน้ำส้มสายชูนั้นยังมีอีกเยอะแยะมากมาย  ซึ่งคุณอาจจะคิดไม่ถึงโดยถ้าหากใครอยากจะทราบถึงวิธีการใช้น้ำส้มสายชูและประโยชน์ที่ได้จากน้ำส้มสายชูนอกเหนือจากนี้ก็สามารถค้นหาข้อมูลผ่านทาง Google ได้เช่นเดียวกันรับรองได้เลยว่าคุณจะต้องรู้สึกประหลาดใจกับความสามารถของน้ำส้มสายชูอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    สุขภาพหู

สุขภาพ

การกินไขมันในแต่ละวัน

การบริโภคไขมันในแต่ละวันเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม  เพิ่มคุณภาพชีวิตและการได้ยินที่ดีขึ้น    การกินไขมันในปริมาณที่เหมาะสมและเลือกประเภทไขมันที่ถูกต้องสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังและส่งเสริมสุขภาพที่ดีได้

ปริมาณไขมันที่เหมาะสม

องค์การอนามัยโลก (WHO) และหน่วยงานด้านสุขภาพต่าง ๆ แนะนำว่าควรบริโภคไขมันในปริมาณประมาณ 20-35% ของพลังงานทั้งหมดที่ได้รับในแต่ละวัน สำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องการพลังงาน 2,000 แคลอรีต่อวัน ปริมาณไขมันที่เหมาะสมจะอยู่ระหว่าง 44-78 กรัมต่อวัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณไขมันที่บริโภคได้ควรสัมพันธ์กับระดับกิจกรรมทางกายและปัจจัยส่วนบุคคลอื่น ๆ เช่น อายุ เพศ และสภาพสุขภาพ

 

ประเภทของไขมันที่ควรบริโภค

ไขมันแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

  1. ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat): พบมากในอาหารจากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ ไข่แดง และผลิตภัณฑ์จากนมบางชนิด การบริโภคไขมันอิ่มตัวในปริมาณมากอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้น ควรจำกัดปริมาณการบริโภคไขมันชนิดนี้ให้น้อยกว่า 10% ของพลังงานที่ได้รับทั้งหมด
  2. ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fat): พบมากในน้ำมันมะกอก อะโวคาโด และถั่วบางชนิด ไขมันชนิดนี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ โดยช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL) ในเลือด
  3. ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated Fat): พบในน้ำมันปลา น้ำมันเมล็ดพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันข้าวโพด ไขมันชนิดนี้ประกอบด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 ซึ่งมีความสำคัญต่อสมองและการทำงานของหัวใจ
  4. ไขมันทรานส์ (Trans Fat): พบมากในอาหารแปรรูป เช่น ขนมอบ คุกกี้ และอาหารทอด ไขมันทรานส์มีผลเสียต่อสุขภาพหัวใจอย่างมาก ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคไขมันชนิดนี้ให้มากที่สุด

 

แนวทางการบริโภคไขมันอย่างเหมาะสม

  1. เลือกไขมันที่ดีต่อสุขภาพ:เน้นบริโภคไขมันจากพืชและปลาที่มีไขมันไม่อิ่มตัวแทนไขมันอิ่มตัวจากเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นม เช่น เลือกใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันคาโนลาแทนเนยหรือน้ำมันหมู
  2. หลีกเลี่ยงไขมันทรานส์: ควรอ่านฉลากอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีไขมันทรานส์หรือไขมันเติมไฮโดรเจน
  3. ควบคุมปริมาณไขมัน:แม้ว่าไขมันที่มีประโยชน์จะเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย แต่การบริโภคมากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ
  4. เลือกอาหารที่มีไขมันดี: เช่น ปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และถั่วที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล

 

การบริโภคไขมันที่สมดุลและเหมาะสมในแต่ละวันเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ หากเลือกบริโภคไขมันที่ดีและหลีกเลี่ยงไขมันที่มีผลเสียต่อร่างกาย คุณจะสามารถรักษาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดที่ดีได้ในระยะยาว

สุขภาพ

การดูแลรักษาสุขภาพดวงตาให้ดีทำอย่างไร 

สำหรับเรื่องของลวงตานั้นนับได้ว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะดวงตานั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆรอบกาย  ดังนั้นอวัยวะภายในร่างกายของเราที่เรียกว่าดวงตานี้จึงมีประโยชน์เป็นอย่างมากหากเราขาดดวงตาไปก็เหมือนกับเราเสียแขนขาไป

เพราะถ้าหากดวงตาของเรามองไม่เห็นนั้นก็จะทำให้เรานั้นทำอะไรแทบจะไม่ได้เพราะเราไม่สามารถหยิบจับสิ่งของได้หรือเราไม่สามารถเดินทางไปไหนได้

เพราะเราไม่สามารถมองเห็นเส้นทางในการเดินทางหรือมองเห็นสิ่งของที่เราจะจับนั่นเอง  ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าการใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีดวงตานั้นเป็นการใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบากมากเลยทีเดียว 

เนื่องจากว่าดวงตานั้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และมีความสำคัญกับร่างกายของคนเราเป็นอย่างมากดังนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาถนอมดวงตาของเราให้ดีโดยในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของการดูแลดวงตาของเราให้มีสุขภาพตาที่ดี เพราะตามีความสำคัญเป็นอย่างมากซึ่งเราไม่ควรมองข้าม 

สำหรับการดูแลดวงตาของเรานั้นเราควรจะต้องมีการถนอมดวงตาในเรื่องของการใช้งานเราไม่จำเป็นที่จะต้องใช้งานสายตาของเราแทบจะตลอดเวลาเราสามารถ พักผ่อนดวงตาของเราได้ด้วยการหลับตาสักประมาณ 10-15 นาทีก็ได้หากเราเริ่มมีความรู้สึกว่าดวงตาของเราเริ่มเมื่อยล้าแล้ว

  นอกจากนี้เรายังสามารถออกกำลังกายหรือบริหารดวงตาเพื่อให้ดวงตาของเรานั้นแข็งแรงด้วยการกรอกตาขึ้นบนและล่างรวมถึงเราสามารถกรอกตาไปทางด้านซ้ายและด้านขวาก็ได้

ถ้าหากรู้สึกเหนื่อยล้าดวงตามากเป็นพิเศษเราก็สามารถนำสำลีไปชุบน้ำอุ่นแล้วมาปิดตามันจะช่วยคลายความเหนื่อยล้าให้กับดวงตาได้เป็นอย่างดีนอกเหนือจากนี้เราไม่ควรใช้ดวงตาหนักมากจนเกินไปซึ่งก็คือการใช้ดวงตาต้องคอมพิวเตอร์นานๆหรือจ้องทีวีนานๆหรือจ้องโทรศัพท์มือถือนานๆเพราะมันจะทำให้สายตาของเราเกิดความล้าได้

สิ่งสำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งในการดูแลดวงตาของเราก็คือการที่เราจะต้องมีการรักษาทำความสะอาดดวงตาในทุกๆวันนั้นเราควรล้างหน้าและล้างบริเวณโดยรอบของตาหรือถ้าใครมีปัญหาเรื่องของสายตาสั้นต้องใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์ก็ควรจะต้องทำความสะอาดทั้งแว่นและคอนแทคเลนส์ให้ดีอย่าใส่คอนแทคเลนส์ติดต่อกันข้ามวัน

ตรวจสุขภาพ   หรือการใส่แว่นตาก็ควรจะต้องมีการเช็ดทำความสะอาดแว่นตาและถ้าหากเรารู้สึกว่าดวงตาของเราคุณมั่วควรจะหาซื้อน้ำยาหยอดตามาหยอดหรือทางที่ดีที่สุดก็ควรที่จะให้หมอเป็นผู้ตรวจสอบดวงตาให้และหมอจะช่วยเป็นคนออกยาที่เหมาะสมกับสภาพของดวงตาให้กับเรานั่นเอง

สุขภาพ

รู้หรือไม่เวลาไหนที่เราควรจะออกกำลังกายมากที่สุด

ปัจจุบันผู้คนให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายมากที่สุดโดยส่วนใหญ่แล้วต้องการให้ตนเองนั้นมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงในขณะเดียวกันบางคนก็ต้องการที่จะ รักษาหุ่นให้รูปร่างดีอยู่เสมอดังนั้นหลายคนจึงเลือกการออกกำลังกาย

ซึ่งการออกกำลังกายในปัจจุบันนี้มีหลากหลายวิธีและหลากหลายรูปแบบด้วยกันโดยแต่ละวิธีนั้นก็จะมีการส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้คนที่ออกกำลังกายในแต่ละจุด

นอกจากหนีถ้าหากใครออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันแล้วยังสามารถป้องกันไม่ให้เกิดภาวะการเจ็บไข้ได้ป่วยได้ง่ายอีกด้วยซึ่งแน่นอนว่าเมื่อไม่เจ็บไข้ได้ป่วยก็จะสามารถหลีกพ้นจากโรคร้ายที่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายได้

สำหรับคนที่มีแนวความคิดที่อยากจะออกกำลังกายนั้นคุณเคยรู้หรือไม่ว่าการออกกำลังกายนั้นสามารถจะทำได้ดีที่สุดในช่วงเวลาไหนที่จะส่งเสริมให้กับสุขภาพร่างกายของคุณนั้นแข็งแรง  เพราะเชื่อแน่นอนว่าหลายคนนั้นอาจจะมีช่วงเวลาที่ว่างในการออกกำลังกายที่แตกต่างกันออกไปบางคนวางตลอดทั้งวัน

ก็อาจจะทำงานอยู่ที่บ้านดังนั้นช่วงเวลาไหนก็สามารถออกกำลังกายได้แต่บางคนนั้นต้องทำงานโดยเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศดังนั้นช่วงเวลาว่างของการออกกำลังกายส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงเวลาเย็น

เนื่องจากการออกกำลังกายนั้นสามารถทำได้หลายช่วงเวลาดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงช่วงเวลาของการออกกำลังกายว่าถ้าหากคุณออกกำลังกายช่วงเวลาไหนจะเป็นอย่างไรบ้างและการออกกำลังกายช่วงเวลาไหนที่จะสามารถทำให้คุณออกกำลังกายแล้วได้ผลมากที่สุดนั่นเอง

สำหรับใครที่ว่างในการออกกำลังกายในช่วงเวลาเช้าเพราะว่าจะต้องออกกำลังกายก่อนที่จะไปทำงานนั้นจะเป็นช่วงที่ เราจะมีเวลาในการออกกำลังกายค่อนข้างน้อยเพราะต้องรีบออกกำลังกายและรีบอาบน้ำไปทำงานแต่การออกกำลังกายในช่วงเวลานี้ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีเช่นเดียวกัน

เพราะเมื่อเราตื่นขึ้นมาแล้วออกกำลังกายก็จะช่วยกระตุ้นทำให้ร่างกายของเรานั้นรู้สึกสดชื่น  โดยการออกกำลังกายในช่วงเวลาเช้านั้นโดยปกติคนจะไม่ค่อยมีเวลามากนักดังนั้นจะออกกำลังกายได้เพียงแค่ประมาณ 20-30 นาทีเท่านั้นซึ่งอาจจะทำให้การออกกำลังกายยังไม่ค่อยมีประสิทธิภาพมากนัก

สำหรับใครที่ไม่มีเวลาในช่วงเช้าเพราะต้องรีบออกไปทำงานตั้งแต่เช้าและสะดวกที่จะออกกำลังกายในช่วงเวลาเย็นซึ่งช่วงเวลานี้จะมีคนนิยมออกกำลังกายมากที่สุด

เพราะคนส่วนใหญ่สะดวกในช่วงตอนเย็นหลังเลิกงานแล้วดังนั้นเราจึงมักเห็นว่าตามสถานที่ออกกำลังกายเช่นฟิตเนสหรือแม้แต่สวนสาธารณะที่ผู้คนมักไปออกกำลังกายก็จะมีผู้คนเป็นจำนวนมากซึ่งเราสามารถใช้เวลาในช่วงนี้นานเท่าไหร่ก็ได้เช่นบางคนอาจจะสะดวกออกกำลังกายชั่วโมงถึง 2 ชั่วโมงก็ได้

เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่   และที่สำคัญช่วงนี้เราจะมีเพื่อนในการออกกำลังกายทำให้เรารู้สึกไม่เบื่อหน่ายและไม่เงียบเหงาในการออกกำลังกายมากเกินไปทำให้ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการออกกำลังกายของเรานั่นเอง 

สุขภาพ

เทรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามหมายถึงอะไรจริงๆ

ผลิตภัณฑ์ความงามของอเมริกาเคยส่งออกไปต่างประเทศอย่างกว้างขวางและมองว่าเป็นตัวแทนของอิสรภาพและความทันสมัย สำหรับความงามนั้นนอกจจากจะต้องดูถึงความสวยงามและคุณภาพที่ดีแล้วนั้นการทำสิ่งที่ตามเทคโนโยลีและความทันสมัยก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน

พอนด์ส? น้ำมันของโอเลย์? ครีมบำรุงผิวที่เป็นวัตถุดิบหลักสำหรับผู้หญิงอเมริกันรุ่นต่อรุ่นแทบจะไม่สามารถตามกระแสความงามที่ร้อนแรงที่สุดในปัจจุบันได้ นั่นก็คือกิจวัตรความงามที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเอเชียหลายขั้นตอน ซึ่งได้เขย่าโลกเครื่องสำอางอย่างล้นหลาม

Forbes รายงานว่าบริษัทเครื่องสำอางในอเมริกากำลังรวมสีและครีมของเอเชียไว้ในผลิตภัณฑ์ของตน ในขณะที่บุคคลบางคนก้าวไปอีกขั้นและผลิตเซรั่มที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเอเชียโดยใช้ส่วนผสม เช่น หอยทาก

อุดมคติด้านความงามเชื่อมโยงกับอุดมการณ์และทัศนคติแบบเหมารวมของต่างประเทศมายาวนาน ซึ่งรวมถึง “ความฝรั่งเศสของแฟชั่น” และ “ความเป็นอังกฤษด้านสุขอนามัย” ในอเมริกา การเกิดขึ้นของฮอลลีวูดและการประกวดความงาม ตลอดจนพัฒนาการด้านการแต่งหน้าและการจัดแสง เชื่อมโยงเครื่องสำอางอเมริกัน

เข้ากับความเย้ายวนใจและความก้าวหน้าอย่างใกล้ชิด ตัวอย่างที่โดดเด่นประการหนึ่ง รัฐบาลเมจิของญี่ปุ่นสนับสนุนการแต่งกายและทรงผมแบบตะวันตกให้เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการสมัยใหม่ ส่งผลให้แป้งทาหน้าสไตล์ตะวันตกกลายเป็นเรื่องธรรมดาในประเทศ

ผู้ก่อตั้ง Shiseido ซึ่งเป็นบริษัทความงามชั้นนำของญี่ปุ่น ได้สร้างแบบจำลองของบริษัทโดยใช้ร้านขายยาในอเมริกา ลูกชายของเขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์ก และทำงานในร้านขายยาในเมืองนี้เป็นเวลาสองปี และในที่สุดก็กลับมาประยุกต์วิธีการแบบอเมริกันกับธุรกิจครอบครัวของเขา

เมื่อชาวอเมริกันเริ่มส่งออกไปต่างประเทศในช่วงทศวรรษที่ 1930 บริษัทอย่าง Pond’s ระมัดระวังในการสร้างบรรยากาศแห่งความพิเศษ

ในประเทศเช่นอินเดีย พวกเขาเน้นย้ำว่าผลิตภัณฑ์ของตนมีไว้สำหรับ “ผู้หญิงอินเดียที่มีฐานะดีกว่า” และโฆษณาในหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษชั้นยอดเป็นส่วนใหญ่ หลังสงคราม การตลาดในต่างประเทศของชาวอเมริกันที่ใส่ใจตัวเองได้เพิ่มมากขึ้น

โดยบริษัทต่างๆ ยังคงใช้ดาราฮอลลีวู้ดในการโฆษณาต่อไป บริษัทอย่าง Max Factor ขายสินค้าผ่านชั้นเรียน “โรงเรียนเสริมความงาม” สั้นๆ กับผู้หญิงในท้องถิ่นที่แม้จะไม่ใช่คนผิวขาว แต่แต่งหน้าแบบอเมริกัน (ริมฝีปากสีเข้ม ถอนคิ้ว) เพื่อให้พวกเธอยังคงระบุตัวตนของประเทศที่ “แปลกใหม่” ได้

ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ความงามของเอเชียแพร่หลายในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางของอเมริกา บางที แนวคิดเก่าๆ ของเราเกี่ยวกับมาตรฐานความงามก็เริ่มที่จะครอบคลุมมากขึ้นและสามารถหาได้ง่ายขึ้นด้วย

 

สนับสนุนโดย    คาสิโนเวียดนาม

สุขภาพ

ปลูกสร้างบ้านเอง มีดีกว่าที่คิด คนเกิดวันศุกร์และเสาร์ ใช้สีห้องนอนไหนดี

หลาย ๆ คน ในยุคปัจจุบันก็อาจจะเลือกบ้านที่สร้างด้วยโครงการต่าง ๆ แต่บางรายก็มีพื้นที่เป็นของตนเองก็เลยเลือกวิธีการปลูกสร้างบ้านด้วยตนเอง ซึ่งก็มีข้อดีหลาย ๆ อย่าง ยกตัวอย่างเช่น

สามารถเพิ่มเติมวันหลังได้ตามที่อยากได้ ในเรื่องที่พวกเราต้องการเพิ่มเติมบ้าน การอยู่บ้านที่ถูกสร้างไว้แล้วตามแบบในโครงการอาจมีข้อกำหนดหลาย ๆ อย่าง ฉะนั้น การผลิตบ้านในพื้นที่ของพวกเราเอง ก็เลยมีอิสระสำหรับการดีไซน์และก็มีข้อกำหนดน้อยกว่า

เมื่ออยากที่จะปรับแก้หรือรีโนเวทบ้านให้เป็นไปตามสิ่งที่มีความต้องการ ตัวอย่างเช่น ถ้าในอนาคตมีสมาชิกครอบครัวมากขึ้นเรื่อย ๆ สามารถเพิ่มเติมบ้าน เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในบ้านได้ หรือการวางเป้าหมายปรับปรุงแก้ไขบ้าน เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าสู่วัยสูงอายุในอนาคต

ความเป็นส่วนตัวของบ้าน เนื่องจากบ้านจัดสรรมีลักษณะที่อยู่ติด ๆ กัน หรือบ้านในแบบทาวน์โฮมที่ใช้กำแพงผืนเดียวกัน เพื่อแบ่งกันบ้านแต่ละบ้าน นำมาซึ่งการทำให้ความเป็นส่วนตัวต่ำลง ไม่เหมาะสมสำหรับผู้ที่อยากมีความสงบเงียบ โดยเหตุนี้การเลือกก่อสร้างบ้านเอง

จะสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวของพวกเราได้มากกว่า โดยสามารถเลือกก่อสร้างบ้าน ในทำเลที่ตั้งที่ไม่วุ่นวาย หรือตารางวางตำแหน่งสำหรับเพื่อการก่อสร้างบ้านบนที่ดินเองได้ เพื่อมีพื้นที่ว่างในรอบ ๆ

ไม่เสียค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงส่วนกลาง บ้านจัดสรรเหล่านี้ชอบมาพร้อมค่าครองชีพ ที่เรียกเก็บจากบริการต่าง ๆ เป็นทุกเดือนหรือทุกปี อาทิเช่น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ซึ่งบางเวลาผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อย บางทีอาจใช้บริการตรงส่วนนี้น้อยครั้งหรือเกือบจะมิได้ใช้เลย เป็นสาเหตุของการเกิดค่าครองชีพที่ไม่สำคัญ ซึ่งพวกเราสามารถตัดค่าครองชีพในส่วนนี้ออกได้ แม้เลือกก่อสร้างบ้านเอง

นอกจากข้อดีเหล่านี้ เรายังมีสิ่งดี ๆ มาแนะนำโดยเฉพาะคนที่เกิดวันศุกร์และเสาร์ ซึ่งถือเป็นการเสริมพลังให้กับเจ้าของบ้าน

คนวันศุกร์ เหมาะกับสีเทา รวมทั้ง สีเขียวอ่อน

เป็นกรุ๊ปสีที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกสงบ สำหรับสีเทาควรที่จะทำการเลือกลงสีเฉพาะนิดหน่อย เพราะว่าถ้าลงสีเทาลงบนฝาผนังอีกทั้งห้องจะก่อให้รู้สึกกลัดกลุ้มจนกระทั่งเกินความจำเป็นเสนอแนะให้เลือกเครื่องเรือนที่มีสีขาวมาตัด เพื่อช่วยเพิ่มความเรียบง่ายให้กับห้องนอน หรือเลือกตกแต่งด้วยต้นไม้มงคลแทนการทาสีเขียว ก็สามารถช่วยเสริมดวงได้อย่างเดียวกัน

คนวันเสาร์ เหมาะกับสีม่วงอ่อน สีขาว สีเทา และก็ สีควันของบุหรี่

เป็นเลิศในวันที่มีสีให้เลือกจำนวนมาก สีม่วง สีที่การบรรลุผลที่สามารถจะช่วยเกื้อหนุนในประเด็นการงานและก็ความรัก แม้กระนั้นสำหรับสีม่วงบางเฉดสีที่เข้มจนถึงเกินความจำเป็น ตัวอย่างเช่น ม่วงมังคุด บางทีอาจให้ความรู้ความเข้าใจกลัดกลุ้ม ท้อใจ ลึกลับ จำเป็นจะต้องเลือกใช้สีม่วงอ่อนหรือสีม่วงพาสเทล เพื่อช่วยเพิ่มความสว่างด้านในห้อง

 

 

สนับสนุนโดย    Inspire คาสิโนเกาหลี

สุขภาพ

กระบวนการทำความสะอาด ดูแลใบไม้ ในบ้าน

กระบวนการทำความสะอาด ดูแลใบไม้ ในบ้าน เมื่อนำต้นไม้โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำพวกไม้ใบเข้ามาปลูกเอาไว้ประดับประดาในบ้าน นอกเหนือจากการดูแลหัวข้อการรดน้ำ แดด การให้ปุ๋ยบำรุงแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่พลาดมิได้เลยก็คือกระบวนการทำให้ต้นไม้นั้นสวยสดงดงาม โดยยิ่งไปกว่านั้นการดูแลเรื่องใบให้มีความเงาสวยจะยิ่งทำให้ใบไม้นั้นงาม เสริมเสน่ห์ให้กับบ้านได้อีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ถ้าต้นไม้สะอาดจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์ด้วยแสงอันสมควรทำให้ต้นไม้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง มาดูกันว่าพวกเราจะสามารถชำระล้างใบไม้ด้วยแนวทางใดได้บ้าง

สำหรับความถี่สำหรับในการชำระล้างใบไม้ของคุณให้ทดลองสัมผัสด้วยนิ้วที่ใบไม้ เพื่อมองว่ามีฝุ่นเกาะแล้วหรือยัง ซึ่งฝุ่นผงจะมากมายหรือน้อยก็ขึ้นกับว่าสิ่งแวดล้อมของบ้านนั้นมีฝุ่นละอองมากน้อยแค่ไหน แนวทางการทำความสะอาดใบไม้ ดังต่อไปนี้

 

– สเปรย์ด้วยน้ำ เป็นแนวทางที่ง่ายที่สุดสำหรับเพื่อการชำระล้างใบไม้ เป็นชูกระถางที่เอาไว้สำหรับปลูกดอกไม้ไปที่อ่างล้างถ้วยชาม หรืออ่างล้างมือในส้วม หลังจากนั้นสเปรย์น้ำลงบนใบไม้ ถ้าเกิดใบไม้มิได้เลอะเทอะมากมายรอยเปื้อน ฝุ่นผงก็จะหลุดออกไป แต่ว่าหากฝุ่นละอองยังไม่ออก สามารถใช้น้ำผสมกับสบู่ให้เจือจางแล้วสเปรย์ลงบนใบไม้

 

– ปัดด้วยแปรงเบาๆ พืชบางประเภทใบเหนียว หรือมีลักษณะใบเป็นฝอย ก็เลยชำระล้างได้ยาก โดยเหตุนี้บางทีอาจเปลี่ยนแปลงวิธีใหม่คือนำแปรงขนนุ่มมาปัดตามใบแทนการเช็ด

 

– ขัดใบไม้ สำหรับต้นไม้ที่มีใบขนาดใหญ่ สามารถใช้ผ้าเปียกที่ไม่เปียกมากหมาด ๆ แล้วถูตามใบไม้ ภายหลังขัดถูใบไม้สะอาดในหนแรกแล้ว คราวถัดไปสามารถใช้แปรงขนอ่อนปัดได้เมื่อใบไม้นั้นกลับมามีฝุ่นมาเกาะอีกที

 

– ตัดแต่งใบไม้การกำจัดใบไม้ที่ตาย เหี่ยวหรือใบเหลืองถือว่าเป็นการทำให้ต้นไม้นั้นมองสะอาดเพิ่มขึ้น แต่ว่าถ้าหากต้นไม้ใดก็ตามที่ดึงใบออกได้ยากให้เล็มส่วนที่เป็นสีเหลือง หรือสีน้ำตาลออก ห้ามดึงโดยเด็ดขาด


– ชำระล้างกระถาง พวกเราบางครั้งก็อาจจะเอาใจใส่ชำระล้างต้นไม้กันไปแล้ว แต่ว่าจำเป็นต้องไม่ลืมเลือนที่จะขัดชำระล้างกระถางด้วย ถ้าหากกระถางที่มีไว้ปลูกต้นไม้มีคราบเปื้อนเลอะเทอะซึ่งมีความสกปรกติดอยู่บางทีอาจใช้น้ำผสมน้ำยาฟอกให้เจือจางแล้วขัดรอยเปื้อนออกโดยใช้แปรงแข็งก่อนที่จะล้างให้สะอาดด้วยน้ำ

และนี่คือสิ่งที่นำมาฝากกันในวันนี้  เครื่องช่วยฟัง   เป็นอย่างไรกันบ้าง ได้ทำกันบ้างหรือไม่ หากยังทำไม่ครบ ลองทำตามเพื่อที่ต้นไม้จะเติบโตได้อย่างดี

สุขภาพ

ผ้าแห้งไวด้วย ฉบับแม่บ้านญี่ปุ่น

หากพูดถึงฤดูฝนทีไร หลายบ้านพบมากกับปัญหาต่าง ๆ ในด้านที่เกี่ยวข้องกับการตากผ้าไม่แห้ง และจากนั้นก็กลิ่นอับ ในที่สุดก็จำเป็นต้องเอากลับไปซักใหม่อีกที พวกเราทดลองไปเล่าเรียนแนวทางของแม่บ้านประเทศญี่ปุ่นกันเลยดีกว่าว่าเขาจะมีวิธีดี ๆ อะไรบ้าง

ด้วยเหตุว่าเนื่องมาจากญี่ปุ่นนั้น เมื่อไปสู่ตอนการเปลี่ยนผ่านฤดูจะก่อให้มีฝนตกต่อเนื่องกันตลอดนับเป็นเวลาหลายวัน ก็ชอบเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

ซึ่งเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการซักผ้าตากผ้าอยู่บ่อยมาก แล้วก็มีแนวทางแก้ปัญหาดีดี วันนี้    hoiana casino   ก็เลยต้องการนำเอาแนวทางดีดีของแม่บ้านประเทศญี่ปุ่นกับวิธีสำหรับซัก-ตากผ้า ในตอนที่ฝนตกตลอด จะมีอะไรบ้างไปดูกัน

 

  1. ผ้าขนหนู ก่อนที่จะลงเครื่องซักผ้าใกล้จะถึงวิธีการปั่นแห้งและก็ปล่อยน้ำทิ้งเป็นคราวสุดท้าย stopการทำงานเครื่องซักผ้าก่อนและก็ใส่ผ้าขนหนูแห้งลงไปในเครื่องซักผ้าด้วย เพื่อผ้าขนหนูไปช่วยซับน้ำและก็ทำให้ผ้าแห้งไวมากยิ่งขึ้นนั่นเอง แม้กระนั้นต้องระมัดระวังเลือกผ้าขนหนูที่สะอาดไม่มีฝุ่นเกาะ เพราะเหตุว่ามิเช่นนั้นฝุ่นผงจากผ้าขนหนูจะไปติดที่ผ้าที่กำลังซักได้

 

  1. ตำแหน่งกระเป๋า และตะเข็บต่าง ๆ เป็นบริเวณที่แห้งยาก ถ้าพวกเรากลับเอาภายในเสื้อออกแล้วตาก จะมีผลให้เสื้อผ้าแห้งได้ไวขึ้น จะให้ดีควรจะกลับหัวเสื้อผ้าไว้ตั้งแต่ก่อนนำใส่เครื่องซักผ้าเลย จุดเด่นอีกอย่างสำหรับเพื่อการกลับเสื้อผ้าก่อนซักจะมีผลให้เสื้อผ้าเก่าช้าลงด้วยนะ

 

  1. ตากผ้าเป็นแถวโค้ง เป็นการตากผ้าโดยคัดขนาด เอาผ้าที่มีปริมาณยาวตากไว้ข้างนอกสุด รวมทั้งผ้าที่มีขนาดเล็กสั้นให้ตากไว้ข้างใน การตากผ้าอย่างงี้จะช่วยทำให้ลมสามารถระบายไปภายในก้าวหน้า และก็กระจัดกระจายออกอย่างทั่วถึง

 

  1. เว้นระยะห่างจากกำแพง อีกช่องทางที่หลีกเลี่ยงมิได้ซึ่งก็คือการตากผ้าไว้ภายในห้อง แล้วก็ตำแหน่งที่เยี่ยมที่สุดสำหรับในการตากผ้าก็คือรอบ ๆ กึ่งกลางห้อง โดยจำต้องเว้นระยะห่างจากพื้นรวมทั้งกำแพง จะช่วยทำให้ลมระบายได้สบาย ผ้าแห้งไวขึ้นไม่เหม็นสาบ

 

  1. การตากผ้าควรจะเว้นระยะห่างระหว่างไม้แขวนเสื้อไว้อย่างต่ำ 5 เซนติเมตร ซึ่งนับว่าเป็นระยะห่างที่ยอดเยี่ยมจะมีผลให้ลมสามารถระบายได้ทั่วถึงรวมทั้งทำให้ผ้าแห้งได้ไวขึ้น หากหลีกเลี่ยงการตากผ้าในห้องมิได้ ทดลองวิธีการแบบนี้สักครั้ง

 

  1. หนังสือพิมพ์ อีกหนึ่งแนวทางยอดนิยม แล้วก็จำต้องบอกเลยว่าผลของมันเวิร์คมากมาย อย่างยิ่งจริง ๆ เป็นการขยำหนังสือพิมพ์ และก็วางไว้ใต้ราวแขวนผ้า โดยมันจะช่วยซับน้ำรวมทั้งความชุ่มชื้นจากผ้าที่ตากอยู่ข้างบน ทำให้ผ้าแห้งไวเพิ่มขึ้น
สุขภาพ

เราควรอาบน้ำต่อวันบ่อยแค่ไหน

ความถี่ในการอาบน้ำที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพอากาศ, กิจกรรมที่ทำ, การฝึกซ้อม, และความสะอาดที่เหมาะสมของผิวและเส้นผมของแต่ละคน

สำหรับส่วนใหญ่ของคน การอาบน้ำทุกวันเป็นสิ่งที่เหมาะสม แต่ในบางครั้งเช่นในวันที่ไม่มีกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมาก หรือในสภาพอากาศที่ไม่ร้อนมาก การอาบน้ำทุกวันอาจจะไม่จำเป็นตามความจำเป็นของแต่ละคน

แต่ในบางกรณี เช่น ในช่วงฤดูร้อนหรือหลังจากกำลังออกกำลังกายหนัก การอาบน้ำมากกว่าหนึ่งครั้งต่อวันอาจจะเป็นสิ่งที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดความร้อนและล้างเสียงสกปรกที่อาจเกิดขึ้นจากการฝึกซ้อมหรือกิจกรรมที่เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อผิวหนังและเส้นผม

สรุปกันได้ว่า การอาบน้ำทุกวันเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรให้ความสำคัญกับการรับรู้สภาพอากาศและความเหมาะสมของสภาพผิวและเส้นผมของคุณเพื่อตัดสินใจในการอาบน้ำในแต่ละวันได้อย่างเหมาะสม การรักษาความสะอาดส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพผิวและร่างกายโดยรวมด้วย

 

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราอาบน้ำ 1 ครั้งต่อวัน

การอาบน้ำหนึ่งครั้งต่อวันมีผลดีต่อสุขภาพทั้งกายและจิตใจ ดังนี้  เครื่องช่วยฟัง มีไว้ทำอะไร

1.ความสะอาด: การอาบน้ำช่วยในการล้างสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่บนผิวหนังและร่างกาย ช่วยลดการติดเชื้อและป้องกันการระบาดของโรคต่าง ๆ เช่น โรคหวัด หรือโรคผิวหนัง

2.ผิวหนัง: การอาบน้ำช่วยในการเปิดเผยและทำให้ผิวหนังสุขภาพดีขึ้น โดยช่วยในการลดความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดปัญหาผิวหนัง เช่น สิว หรือสะสมของแบคทีเรีย

3.สุขภาพจิต: การอาบน้ำเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายและสบายตัว ช่วยลดความเครียดและเพิ่มอารมณ์ที่ดีต่อจิตใจ

4.สุขภาพเส้นผม: การอาบน้ำช่วยในการล้างสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่บนเส้นผม และช่วยให้เส้นผมสุขภาพแข็งแรงมั่นคง

อย่างไรก็ตาม การอาบน้ำเป็นเรื่องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละบุคคล ซึ่งอาจมีปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพอากาศ การทำงาน หรือกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันที่มีผลต่อการตัดสินใจในการอาบน้ำแต่ละครั้ง

ข้อควรระวังในการอาบน้ำ

การอาบน้ำเป็นกิจกรรมที่สำคัญสำหรับการรักษาสุขภาพและความสะอาดส่วนตัว แต่ยังมีข้อควรระวังบางประการที่ควรทราบ เช่น

1.อุณหภูมิของน้ำ: การใช้น้ำร้อนเกินไปอาจทำให้ผิวหนังแห้งและระคายเคืองได้ ควรใช้น้ำอุ่นหรืออุณหภูมิที่เหมาะสมตามสภาพผิวและความสะดวกของตัวเอง

2.การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด: ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมกับประเภทของผิวหนังและเส้นผมของคุณ เพื่อป้องกันการก่อให้เกิดความแพ้หรือปัญหาผิวหรือเส้นผม

3.เวลาในการอาบน้ำ: การอาบน้ำนานเกินไปอาจทำให้ผิวหนังแห้งและขาดน้ำ ควรจำกัดเวลาในการอาบน้ำให้เหมาะสม เพื่อป้องกันการทำลายของชั้นสารพิเศษบนผิวหนัง

4.การใช้ผ้าขนหนูหรือผ้าห่ม: หลังจากการอาบน้ำควรใช้ผ้าขนหนูหรือผ้าห่มที่สะอาดและนุ่มเพื่อล้างน้ำบนร่างกาย และห้ามใช้ผ้าเดินทางหรือผ้าที่ไม่สะอาด

5.การดูแลระบบน้ำ: ควรรักษาความสะอาดของระบบน้ำในบ้าน เช่น การทำความสะอาดที่ประจำของท่อน้ำและที่เก็บน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดโรคจากแบคทีเรียหรือสารตกค้างในน้ำ