ผู้เขียน: admin

คุณผอมก็เสี่ยงต่อโรคร้าย ความผอม เป็นหนึ่งในสิ่งที่หลายๆคนนั้นอยากที่จะให้มันเกิดขึ้นกับตนเองมากๆเพราะคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้เลือกที่จะหันมาออกกำลังกายหรือลดน้ำหนักเพื่อทำให้ตนเองนั้นดูดี มีรูปร่างที่ดี และมีรูปร่างที่ผอม เราจึงจะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่ชื่นชอบการออกกำลังกายเพื่อที่จะบริหารร่างกายของตนเองให้ดูดีอยู่เสมอ

ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตามแต่รู้หรือไม่ว่า การที่เราหักโหมกับการลดน้ำหนักมากเกินไปนั้นนอกจากจะส่งผลกระทบต่อร่างกายยังอาจทำให้ร่างกาย ของเรานั้นทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังอาจทำให้การลดน้ำหนักนั้นไม่มีประสิทธิภาพอีกด้วย ยิ่งถ้าใครที่หักโหมกับการลดน้ำหนักมากเกินไปจนทำให้ตนเองนั้นเป็นโรคคลั่งผอม ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายนั้นได้รับผลกระทบอย่างหนัก

ถึงแม้ว่าความผอมจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่หลายๆคนต้องการ แต่อยากให้ทุกคนรู้ว่าการที่เราผอมมากจนเกินไปนั่นก็อาจทำให้ร่างกายของเราเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่ายเช่นกัน ถึงแม้ว่าในส่วนนี้หลายๆคนอาจจะมองข้ามแต่อยากให้ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องที่เราควรให้ความสนใจ ฉะนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่ายิ่งถ้าเราผอมมากๆนั่นจะทำให้ร่างกายของเราเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายอะไรได้บ้าง จะไปดูกันเลย

• โรคความดันโลหิต

เป็นหนึ่งในโลกที่พบบ่อยมากๆในสมัยปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่ก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้กันค่อนข้างที่จะสูง ซึ่งรู้หรือไม่ว่าโรคความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในโลกที่คนพอมีความเสี่ยงต่อการเป็นเยอะมากๆ เพราะระยะแรกของโลกนี้จะไม่ค่อยแสดงอาการออกมาให้เห็น จึงทำให้คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตนเองมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตนั่นเอง ดังนั้น โรคนี้ถือเป็นหนึ่งในโรคที่อาจเกิดขึ้นกับคนที่คลั่งผอม ถึงแม้ว่าเราจะออกกำลังกายมากจนเกินไปก็อาจทำให้เรามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ได้

• โรคไทรอยด์

ต่อมไทรอยด์นั้นจะทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ที่มีส่วนช่วยในการควบคุมการเผาผลาญสารอาหารในร่างกาย รวมไปถึงระดับอุณหภูมิในร่างกายอีกด้วย ซึ่งรู้หรือไม่ว่าโรคนี้ถือเป็นหนึ่งในโลกที่เกิดขึ้นกับคนที่ผอมมากๆ หรือคนที่มีน้ำหนักตัวน้อยจนเกินไป จะยิ่งทำให้ นั้นได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ได้ง่าย

• ความหนาแน่นของมวลกระดูก

รู้หรือไม่ว่าคนผอมส่วนใหญ่มีโอกาสเสี่ยงต่อการที่ร่างกายจะมีความหนาแน่นของมวลกระดูก จนทำให้ร่างกายนั้นมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนได้ง่าย ซึ่งโรคนี้ถือเป็นภัยเงียบที่อาจเกิดขึ้นโดยที่ตนเองก็ไม่รู้ตัว อีกทั้งยังเกิดขึ้นได้ง่ายสำหรับคนผอมอีกด้วย สำหรับใครที่คลั่งผอมมากๆก็ควรที่จะดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการที่ร่างกายจะได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน

ได้รับการสนับสนุนโดย. เครื่องช่วยฟังที่เสียงรบกวนน้อยที่สุด

ถึงแม้ว่าในสมัยปัจจุบันนี้หลายคนอาจจะมองข้ามการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการใช้ชีวิตของคนเราในสมัยนี้ค่อนข้างที่จะแตกต่างกันออกไปบางคนอาจนอนไม่เป็นเวลาหรือบางคนทำงานหนักจนเกินไปจนไม่มีเวลาได้รับการพักผ่อน

ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่ร่างกายของเราไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพออย่างเหมาะสมนั้น นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเราแล้ว

วิธีแก้อาการนอนไม่หลับ ยังอาจทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลงจนทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ดังนั้น การดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อยู่เป็นประจำ รวมไปถึงการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่มักที่จะมีอาการนอนไม่หลับกันอยู่บ่อยๆก็ตาม

เพราะฉะนั้นวันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีง่ายๆในการแก้อาการนอนไม่หลับ ซึ่งสำหรับใครที่กำลังมีปัญหาหรือกำลังมองหาวิธีแก้วันนี้เรามีคำตอบ

• หลีกเลี่ยงอาหารมื้อดึกๆ

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะชื่นชอบการทานอาหารมื้อดึกกันมากๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดึกที่เป็นมื้อหนักๆ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่รอรับประทานอาหารก่อนการเข้านอนนั่นจะทำให้ร่างกายของเรามีระบบย่อยอาหารที่ยากมากยิ่งขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการนอนของเรา ดังนั้นวิธีแก้ง่ายๆเลยก็คือควรที่จะหลีกเลี่ยงมื้อดึก แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรที่จะเลือกทานอาหารที่ย่อยได้ง่ายเพื่อไม่ให้ ระบบย่อยอาหารของเราทำงานหนักจนเกินไปนั่นเอง

• การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

แน่นอนว่าการที่เราทำให้ตนเองนั้นรู้สึกผ่อนคลายรวมไปถึงกล้ามเนื้อหรือร่างกายส่วนต่างๆจะยิ่งทำให้เรา นอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นยิ่งถ้าเรารู้สึกผ่อนคลาย สมองปลอดโปร่ง จะยิ่งทำให้เรานอนหลับได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากเรานอนแช่น้ำอุ่นหรืออาจจะเป็นการนวดเบาๆก่อนเข้านอน วิธีนี้ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้คุณนอนหลับได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

• ควรทำสมองให้ปลอดโปร่ง

ไม่ว่าเราจะเครียดมากขนาดไหนก็ตามก่อนการเข้านอนและหากอยากนอนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือ การทำสมองของเราให้ปลอดโปร่ง รู้สึกสดชื่นหรือผ่อนคลายให้ได้มากที่สุด เพื่อให้การนอนหลับนั้นมีประสิทธิภาพและเป็นผลดีมากที่สุด ขอบอกเลยว่าวิธีนี้ ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้เรานอนหลับได้สนิทและยาวนานตลอดทั้งคืนอีกทั้งยังตื่นมารู้สึกสดชื่นอีกด้วย

สนับสนุนเนื้อหาโดย  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

อาหารเช้าที่ควรลดน้ำนักควรระวัง การลดน้ำหนัก ในสมัยปัจจุบันนี้ แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่นั้นให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสาว ๆ เพราะการลดน้ำหนักนั้นสามารถช่วยทำให้เรานั้นมีรูปร่างที่สวยสุขภาพดีได้

อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยในการเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตอีกด้วย ซึ่งต้องบอกก่อนว่าการลดน้ำหนักในสมัยปัจจุบันนี้นั้น สามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นทั้ง การออกกำลังกาย หรือแม้แต่การเลือกรับประทานอาหาร แต่ในสมัยนี้เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่มักที่จะมีพฤติกรรมการกินที่ส่งผลทำให้อ้วนได้ง่าย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทานแป้งเยอะเกินไป การทานหวานมากเกินไป จนส่งผลให้ไขมันในร่างกายนั้นเกิดการสะสม ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่าเนื่องด้วยสาเหตุนี้เอง จึงทำให้คนส่วนใหญ่หันมาลดน้ำหนัก

เพื่อที่จะทำให้ตนเองนั้นดูดีมากขึ้น และสำหรับใครที่กำลังอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก  เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน    วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า อาหาเช้าที่เราควรระวังนั้นจะมีอะไรกันบ้าง ถึงแม้ว่ามื้อเช้าจะเป็นมื้อที่มีความสำคัญต่อร่างกายมากขนาดไหน แต่สำหรับคนที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระวังให้ดี จะมีอะไรกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย 

• คอนเฟลก

เชื่อว่าอาหารช้าเป็นมื้อที่มีความสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก แต่สำหรับคนที่กำลังอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระวังอาหารประเภทคอนเฟลก เพราะอาหารประเภทนี้ส่วนใหญ่แล้วจะอุดมไปด้วยแป้ง ซึ่งหากเราทานเข้าไปนั้นอาจส่งผลให้ร่างกายของเราเปลี่ยนจากแป้งไปเป็นน้ำตาลแล้วไปสะสมเป็นไขมันได้นั่นเอง แต่ถ้าหากใครที่ชื่นชอบและขาดไม่ได้จริง ๆ ก็ควรทานในปริมาณที่เหมาะสม หรืออาจจะลดการทานให้น้อยลงเพื่อผลดีต่อร่างกาย 

• น้ำผลไม้

แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่นั้นชื่นชอบการดื่มน้ำผลไม้กันเยอะมาก ๆ เนื่องจากน้ำผลไม้สามารถให้ความสดชื่นแก่ร่างกายของเราได้ จึงทำให้คนส่วนใหญ่นั้นนิยมดื่ม แต่รู้หรือไม่ว่าในความเป็นจริงแล้วน้ำผลไม้นั้นอุดมไปด้วยน้ำตาลที่สูงมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำผลไม้สำเร็จรูป ซึ่งหากเราดื่มบ่อย ๆ นั้นก็จะยิ่งทำให้ร่างกายของเราได้รับน้ำตาลที่เยอะเกินไป ดังนั้น อาหารประเภทนี้จึงเป็นอาหารที่เหล่าคนลดน้ำหนักต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

• ข้าวเหนียว

อาหารเช้าส่วนใหญ่แน่นอนว่าคนจะต้องนึกถึงข้าวเหนียวไก่ย่าง หมูปิ้งกันอย่างแน่นอน ซึ่งรู้หรือไม่ว่าข้าวเหนียวเป็นหนึ่งในอาหารเข้าที่คนกำลังลดน้ำหนักจะต้องระวัง เนื่องจากข้าวเหนียวนั้นเต็มไปด้วยแป้ง และสามารถเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลค่อนข้างที่จะเร็ว ดังนั้น เมื่อเราทานข้าวเหนียวเข้าไปแล้ว ก็อาจทำให้ร่างกายของเรานั้นมีปริมาณน้ำตาลที่พุ่งสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใครที่กำลังอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก หากเป็นไปได้ก็ควรหลีกเลี่ยงเพื่อให้การลดน้ำหนักนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

รู้หรือไม่ว่าในแต่ละวันนั้น วัยทำงานอย่างเราต้องเต็มที่ในการทำงาน จนทำให้พลังงานในร่างกายนั้นหมดไปอย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะทำให้คนส่วนใหญ่นั้นมักที่จะมองหาวิธีการชาร์ตพลังงานให้แก่ร่างกาย

อาหารที่วัยทำงานนั้นไม่ควรพลาด โดยหนึ่งในนั้นก็คือ การนอนหลับพักผ่อน และแน่นอนว่าเราเองก็ไม่สามารถที่จะทำสิ่งเหล่านี้ได้หากยังอยู่ในที่ทำงาน

ดังนั้น วิธีการที่เราจะเพิ่มพลังให้แก่ร่างกายได้นั้น ปัจจุบันนี้ก็สามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งขอบอกเลยว่าสำหรับใครที่อยู่ในช่วงวัยทำงาน และอยากที่จะมีแรงในการทำงานตลอดทั้งวัน โดยที่ไม่ได้รู้สึกง่วง หรือรู้สึกอ่อนแรงเหมือนหมดพลังงานในร่างกาย

อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะวันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหารที่รับรองได้เลยว่าหากทานเป็นประจำก็จะยิ่งดีต่อร่างกาย หรือหากทานในระหว่างวันก็จะสามารถช่วยไม่ทำให้เรารู้สึกง่วงในระหว่างวันได้ อีกทั้งยังเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยประโยชนืที่ครบถ้วนอีกด้วย

เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่เหมาะสมสำหรับวัยทำงานเป็นอย่างมาก และเป็นอาหารที่วัยทำงานต้องไม่พลาดอย่างเด็ดขาด จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างนั้นไปดูกันเลย 

• ผลไม้

แน่นอนว่าเป็นอาหารที่เรานั้นสามารถหาทานกันได้ง่าย และเป็นอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วนมาก ๆ เพราะผลไม้นั้นจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเยอะมาก ๆ และยังเป้นอาหารที่เหมาะสำหรับวัยทำงานอีกด้วย เพราะหากเราซื้อมาทานในระหว่างวันนั้น จะสามารถบรรเทาความง่วงได้เป็นอย่างดี เพราะบางครั้งผลไม้จะมีรสชาติที่เปรี้ยว จึงอุดมไปด้วยวิตามินซีที่สูง นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาในขณะที่เรานั่งทำงานอยู่หน้าจอนาน ๆ อีกด้วย รับรองได้เลยว่าหากซื้อมาทานในระหว่างวันจะยิ่งทำให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

• ถั่วหรือธัญพืช

แน่นอนว่าเป็นอาหารที่เหล่านั่งทำงานนาน ๆ ต้องไม่พลาดอย่างเด็ดขาด เพราะถั่วหรือธัญพืชนั้นจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชนืต่อร่างกายเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการคุมความหิวในระหว่างวันได้ดี เพราะอาหารประเภทนี้จะอุดมไปด้วย ไฟเบอร์ โปรตีน รวมไปถึงวิตามินและแร่ธาตุอีกด้วย เรียกได้ว่าเป้นอาหารที่เหมาะสำหรับสายออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานนาน ๆ หรือหากใครที่อยากหาอะไรทานในระหว่างวันต้องไม่พลาดอาหารประเภทนี้อย่างเด็ดขาด 

• น้ำเปล่า

โดยปกติแล้วร่างกายของคนเราจำเป็นที่จะต้องได้รับน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้วต่อวัน แต่รู้หรือไม่ว่าการที่เราดื่มน้ำในปริมาณที่มาก ๆ ก็จะยิ่งดีต่อร่างกาย เพราะเราไม่จำเป็นที่จะต้องดื่มตามที่ถูกกำหนดไว้ เพราะการดื่มน้ำเยอะ ๆ ในช่วงแรก ๆ อาจจะทำให้เราได้เข้าห้องน้ำบ่อย ๆ แต่พอนาน ๆ ไปร่างกายของเราก้จะเกิดความเคยชิน และช่วยปรับความสมดุลให้แก่ร่างกาย ซึ่งวีนี้เป็นวีที่เหมาะสมสำหรับสายออฟฟิศเป็นอย่างมาก เพราะจะได้ช่วยบรรเทาอาการง่วงในระหว่างวันได้ แถมยังดีต่อร่างกายอีกด้วย 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่

คนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มองว่า การที่เราเลือกทานผักผลไม้เยอะๆ จะยิ่งส่งผลดีต่อร่างกาย เพราะ จะได้ทำให้ร่างกายของเรานั้นได้รับสารอาหารที่เพียงพอ

และมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงได้ เนื่องจากในผักผลไม้นั้น ส่วนใหญ่แล้วจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าในความเป็นจริงแล้ว ผักผลไม้บางชนิดก็ไม่ได้มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเสมอไป เพราะผักบางชนิดนั้น อาจจะมีประโยชน์ก็จริง

ผักผลไม้ประโยชน์น้อย แต่อาจมีประโยชน์น้อยซึ่งหากเราทานเยอะๆนั้น ก็อาจทำให้สุขภาพของเรานั้นพังได้

ดังนั้น สำหรับใครที่ชื่นชอบการทานผักผลไม้เป็นประจำอยู่แล้ว ทางที่ดีหากอยากทานผักผลไม้ให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรเลือกทานผักที่มีประโยชน์เยอะๆหรือผักที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกายสูง เพื่อหลีกเลี่ยงการที่เราจะสุขภาพพังได้

อย่างไรก็ตาม วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าจะมีผักผลไม้ชนิดไหนกันบ้างที่มีประโยชน์น้อย และหากเราทานเข้าไปนั้นก็อาจทำให้สุขภาพของเราพังได้ จะมีผักผลไม้ชนิดไหนกันบ้างไปดูกันเลย

• ผักผลไม้อบแห้ง

เนื่องจากในสมัยปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่นิยมทานผักผลไม้อบแห้งกันเยอะมากๆ เพราะคนส่วนใหญ่อาจจะมองว่าเป็นผักผลไม้ที่สามารถทานได้ง่าย และมีรสชาติที่ถูกปากไม่เหมือนกับผักผลไม้แบบสดๆ แต่รู้หรือไม่ว่า ผักผลไม้ที่นำมาอบแห้งนั้น นอกจากจะถูกดึงน้ำออกไปจากตัวผักผลไม้แล้วยังอาจเพิ่มความหวานเข้าไปอีกด้วย ซึ่งหากเราทานเป็นประจำนั้นนอกจากจะทำให้เราอ้วนง่ายแล้วยังอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายหรืออาจทำให้สุขภาพของเราพังลงได้

• ผักผลไม้สำเร็จรูป

รู้หรือไม่ว่าน้ำผักผลไม้ที่ทำสำเร็จรูปพร้อมดื่มแล้วนั้น มักที่จะเป็นเครื่องดื่มที่อาจมีวัตถุกันความเสีย เพื่อที่จะได้กักเก็บไว้กินเป็นเวลานาน อีกทั้งยังมีการผสมสีเพื่อสร้างสีสันให้แก่เครื่องดื่มอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่อาจจะมองว่า เครื่องดื่มผักผลไม้สำเร็จรูปนั้นเป็นเครื่องดื่มที่ทานได้ง่ายและมีรสชาติที่อร่อย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผักผลไม้สำเร็จรูปพร้อมดื่มนั้นนอกจากจะมีประโยชน์น้อยแล้วหากเราดื่มเยอะๆก็อาจทำให้สุขภาพของเรานั้นพังลงได้นั่นเอง

• ผักผลไม้กวน

รู้หรือไม่ว่าผักผลไม้ที่ถูกนำมากวนนั้นนอกจากจะถูกตัดสารอาหารที่มีประโยชน์ออกไปแล้ว ยังอาจเพิ่มน้ำตาลเข้าไปซึ่งหากเราเลือกทานก็อาจทำให้เราอ้วนได้ง่ายเนื่องจากผักผลไม้กวน จะมีการเพิ่มสาร เพื่อเพิ่มอรรถรสในการทาน ดังนั้น ถึงแม้ว่าผักผลไม้กวน หรือเช่อิ่ม จะมีหน้าตาที่น่ารับประทานมากแค่ไหนก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาหารประเภทนี้เป็นอาหารที่ประโยชน์น้อย อีกทั้งยังทำให้เราอ้วนได้อีกด้วย ซึ่งหากใครที่ไม่อยากสุขภาพพัง หากหลีกเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดเพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีของตัวเราเอง

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

อันตรายจากการเป็นโรคอ้วน  ปัจจุบันนี้การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะยิ่งช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้ แถมยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ร่างกายได้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าการรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสมก็สามารถช่วยให้การทำงานในร่างกายนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

แต่เมื่อไหร่ที่เราเลือกรับประทานอาหารเกินขีดจำกัดของร่างกาย แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ตามมานั้นต้องไม่ดีอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนอกจากเราจะรู้สึกทรมานแล้ว ยังอาจส่งผลให้ร่างกายเกิดการสะสมไขมันได้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าในที่สุดผลเสียที่ตามมาก็อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนได้นั่นเอง

เพราะการสะสมไขมันในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายจะส่งผลให้ร่างกายทำงานผิดปกติ จึงเป็นสาเหตุที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนนั่นเอง ยิ่งถ้าเรากินของที่มีไขมันเยอะ ๆ ก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อปัญหาสุขภาพร่างกายได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่คิดว่าโรคอ้วนนั้นไม่ได้มีความอันตรายอย่างที่คิด

วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับความอันตรายที่เราอาจได้รับจากภาวะโรคอ้วน ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ จนอาจส่งผลให้เสียชีวิตลงได้ จะมีโรคไหนกันบ้างไปดูกันเลย 

1.โรคหลอดเลือดตีบ

แน่นอนว่าโรคอ้วนนั้นจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดตีบได้ เนื่องจากว่าไขมันในร่างกายเกิดการสะสมมากเกินไป จนเกิดการอุดตันในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือกทำงานผิดปกตินั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นคือ คนที่เป็นโรคอ้วนอยู่แล้วร่างกายจะไม่ค่อยแข็งแรง จะอาจส่งผลให้เสียชีวิตจาการเป็นโรคนี้ได้ง่ายมากขึ้น 

2.โรคข้อเสื่อม

เมื่อร่างกายของเรามีน้ำหนักที่เกินมาตรฐาน แน่นอนว่าผลเสียที่ตามมานั้นไม่เพียงแต่เป็นในเรื่องของสุขภาพร่างกาย แต่อาจส่งผลกระทบไปยังข้อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อเข่า สะโพก หรือกระดูกส่วนต่าง ๆ ได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคือ คนที่มีภาวะเป็นโรคอ้วนยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคข้ออักเสบได้อีกด้วย 

3.โรคมะเร็งบางชนิด

ส่วนใหญ่แล้ว โรคมะเร็งเกิดขึ้นได้ยากมาก ๆ แต่ส่วนมากมักพบกับคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ หรือคนที่เป็นโรคอ้วนนั่นเอง เพราะปกติแล้วจากการสำรวจพบว่าคนปกติทั่วไปกับคนที่มีน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐาน 40% คือผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้สูงมากกว่า โดยเฉพาะ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม หรือแม้แต่มะเร็งลำไส้ใหญ่เองก็ตาม ดังนั้น ทางที่ดีไม่ควรปล่อยละเลยในเรื่องของการดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย ควรหมั่นดูแลให้ดี เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายได้ง่าย

ได้รับการสนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟัง

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ จำเป็นที่จะต้องกักตัว หรือต้องทำงานกันอยู่ที่บ้าน เพราะโลกของเราในทุก ๆ วันนี้เต็มไปด้วยโรคระบาดต่าง ๆ มากมาย รวมไปถึงบางพื้นที่อาจมีสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยเป็นใจ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการมีฝุ่น PM มลพิษ หรือแม้แต่มลภาวะต่าง ๆ ทางอากาศ

จึงทำให้คนส่วนใหญ่จำเป็นต้องกักตัวเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การที่หลาย ๆ คนต้องทำงานอยู่บ้ายนั้น อาจทำให้บางคนชื่นชอบ หรือบางคนก็อาจรู้สึกเบื่อหน่ายมาก ๆ เพราะการที่เราต้องนั่งทำงานอยู่ที่บ้าน จะยิ่งทำให้เรานั้นปล่อยละเลยการดูแลตนเอง เพราะคิดว่าทำงานอยู่บ้านจะต้องสบาย ๆ ไม่เครียด แต่ในความเป็นจริงแล้ว

ยิ่งเราหมกหมุ่นอยู่กับการทำงาน หรืออยู่บ้านมากเกินไป จะยิ่งทำให้เราสะสมความเครียด และรู้สึกเบื่อหน่ายได้ง่ายนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อไหร่ก๖มที่เรามีความเครียด ก็จะส่งผลกระทบไปยังสุขภาพ รวมไปถึงในเรื่องของผิวพรรณได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาผิวโทรมจากการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ

หรือเกิดขึ้นจากการละเลยการดูแลตนเอง ฉะนั้น สำหรับใครที่ต้องทำงานอยู่บ้าน และอยากที่จะดูแลสุขภาพร่างกาย หรือดูแลผิวพรรณเพื่อไม่ให้เสื่อมโทรมได้ง่าย วันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีการกู้ผิวโทรมช่วงกักตัวอยู่บ้าน ซึ่งก็เป็นวิธีง่าย ๆ หากทำเป็นประจำ

เคล็ดลับแก้ปัญหาผิวโทรมช่วงกักตัว นอกจากจะได้ผิวที่สวยสุขภาพดี ยังได้สุขภาพร่างกายที่ดีอีกด้วย จะมีวิธีไหนกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย 

1.การบำรุงผิวด้วยเซรั่มอยู่เสมอ

ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ออกไปทำงานข้างนอกก็ตาม การดูแลผิวของเราเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอก็ไม่ควรที่จะมองข้ามอย่างเด็ดขาด ถึงแม้เราจะทำงานอยู่บ้าน เราก็ควรที่จะให้ความสำคัญกับการดูแลผิวเป็นพิเศษ ควรที่จะดูแลอย่างล้ำลึกด้วยการทาเซรั่มอยู่เป็นประจำ เพื่อช่วยให้ผิวของเราไม่โทรม และขาวกระจ่างใสได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยให้ผิวของเราดูอิ่มน้ำ สดชื่น และจะยิ่งทำให้เรานั้นมีความสุขกับการทำงานมากยิ่งขึ้น

2.การไม่ลืมทาครีมกันแดด

หลายคนมองว่า เราทำงานอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน ไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดดก็ได้ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการทาครีมกันแดดนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ต่อสุขภาพผิวของเรา เพราะไม่เพียงแต่แสงแดดที่เป็นตัวทำร้ายผิวของเรา แต่แสงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็เป็นหนึ่งในตัวที่คอยจะทำร้ายผิวของเราได้เช่นกัน กังนั้น ถึงแม้ว่าจะทำงานอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน เราก็ไม่ควรปล่อยละเลยการทาครีมกันแดด เพื่อป้องกันผิวของเราจากการถูกทำร้าย 

3.การหลีกเลี่ยงการนอนดึก

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่ต้องทำงานอยู่บ้าน มักที่จะมีพฤติกรรมการนอนดึกกันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การที่เรานอนดึกเป็นประจำนั้นก็เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวของเรานั้นเมื่อมโทรมได้ง่าย ฉะนั้น ทางที่ดี ควรที่จะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อไม่เป็นการร้ายผิวมากจนเกินไป และเพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีนั่นเอง 

ได้รับการสนับสนุนจาก    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

เชื่อว่าใคร ๆ ก็อยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง รวมไปถึงการมีสุขภาพผิวที่ดีจากภายในสู่ภายนอกด้วย เพราะการที่เราดูแลตัวเอง จนสมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีสุขภาพผิวที่ดูดีจากภายในสู่ภายนอก จะเป็นการเพิ่มความมั่นใจไปได้ในอีกระดับหนึ่ง หรือเรียกได้ว่าอาจช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ตัวเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ยิ่งถ้าเรามีผิวหรรณที่สวย ซึ่งเรียกว่าเป็นจุดเด่นสำคัญของการใช้ชีวิตเลยก็ว่าได้ จะยิ่งทำให้การใช้ชีวิตของเรานั้นเต็มไปด้วยความสุขมากมาย บวกกับการที่เราเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อยู่เป็นประจำ หรือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร จะยิ่งช่วยเสริมสร้างการทำงานของร่างกาย ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เพื่อที่เราจะได้มีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงนั้นเอง อย่างไรก็ตาม นอกจากการดูแลสุขภาพร่างกายจะเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามแล้ว การดูแลสุขภาพผิวก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเช่นกัน ฉะนั้น

ขั้นตอนการดูแลสุขภาพผิว วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอกให้แลดูมีสุขภาพมากยิ่งขึ้น จะมีวิธีไหนกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

1.การเลือกดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร

คนส่วนใหญ่อาจจะเชื่อว่าการที่เราดื่มน้ำตามที่ร่างกายต้องการ หรือดื่มน้ำมันละ 7-8 แก้วจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีให้แก่เราได้ แต่รู้หรือไม่ว่า น้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก ซึ่งเราไม่จำเป็นที่จะต้องดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้วต่อวันก็ได้ เพราะสามารถดื่มได้มากกว่านั้น หรืออาจจะดื่มวันละ 2 ลิตรก็ได้ เพราะยิ่งร่างกายของเราได้รับปริมาณน้ำเยอะแค่ไหนก็จะยิ่งส่งผลดีต่อร่างกายเรา รวมไปถึงการช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิวที่ดีให้แก่เราได้อีกด้วย และที่สำคัญคือสามารถช่วยคงความสมดุลให้แก่ผิวของเราได้อีกด้วย 

2.การออกกำลังกายเป็นประจำ

รู้หรือไม่ว่าการที่เราเลือกออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ หรืออย่างน้อยวันละ 30 นาที จะช่วยในการขับสารพิษที่ไม่ดีออกไปจากรางกายของเราได้ผ่านทางเหงื่อ ทั้งยังเป็นวิธีที่สามารถช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย รับรองได้เลยว่าหากเราทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะได้สุขภาพร่างกายที่ดี ยังได้สุขภาพผิวที่ดีจากภายในสู่ภายนอกอีกด้วย 

3.การบำรุงผิวพรรณอย่างสม่ำเสมอ

แน่นอนว่าเป็นวิธีที่หลาย ๆ คนนั้นเลือกทำ เนื่องจากว่าการที่เราดูแลผิวพรรณเป็นประจำอย่างสมเสมอ จะยิ่งช่วยเสริมสร้างการมีสุขภาพผิวที่ดีให้แก่เราได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทำเป็นประจำเช้า-เย็น การทาครีมกันแดดเป็นปรำเพื่อป้องกันผิวจากแสงแดด ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ผิวของเรามีสุขภาพดีโดยไม่ถูกทำร้ายได้ง่าย

ได้รับการสนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังยี่ห้อไหนดี

รู้หรือไม่ว่าการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง จากภายในสู่ภายนอกนั้นมีความสำคัญมากแค่ไหน เพราะสมัยปัจจุบันนี้ไม่ว่าใครก็อยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงกันทั้งนั้น เพราะการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงก็เปรียบเสมือนกับหัวใจสำคัญของการใช้ชีวิต ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่ามีคนส่วนใหญ่ที่หันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงกันมากขึ้น

แต่ทว่า โรคภัยไข้เจ็บก็อาจเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้ โดยเฉพาะอาการเหนื่อยง่าย หรือแม้กระทั่งอาการใจสั่นเองก็ตาม เพราะอาการเหล่านี้หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเพียงอาการเหนื่อยธรรมดาอาการหนึ่ง หรือที่ใจสั่นก็อาจจะเป็นเพราะเรากินกาแฟมากเกินไปในแต่ละวัน แต่รู้หรือไม่ว่า อาการเหล่านี้ถึงแม้จะดูเป็นเพียงอาการธรรมดา

แต่ถ้าหากปล่อยไว้ก็อาจเป็นอันตรายต่อตัวเราได้ หรืออาจถึงขั้นทำให้เราหมดสติไปได้ แต่ทว่าอาการต่างๆ เหล่านี้ก็สามารถบ่งบอกได้ว่าร่างกายของเรากำลังพบเจอกับความผิดปกติอะไรได้บ้าง หรืออาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายที่แจเกิดได้ ฉะนั้น สำหรับใครที่กำลังมีอาการนี้อยู่อย่าพึ่งกังวลไป

เหนื่อยง่าย ใจสั่น เสี่ยงโรคร้าย เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เมื่อเรามีอาการเหนื่อยง่าย หรือใจสั่น จะมีความเสี่ยงต่อโรคไหนกันบ้างไปดูกันเลย 

โรคหัวใจ แน่นอนว่าอาการเหนื่อยง่าย หายใจไม่สะดวก หรือแม้แต่อาการใจสั่น ซึ่งหากเรามีอาการแบบนี้อยู่บ่อยๆ ขอบอกเลยว่าคุณกำลังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจในภายหน้า หากปล่อยไว้นานไม่ทำการรักษาก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายในด้านอื่นๆ ได้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าโรคหัวใจ หรือโรคหัวใจหลอดเลือดตีบนั้น ส่วนใหญ่มักที่จะขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วย โดยหลักๆ แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 25 ปี มีโอกาสสูงมาก ๆ ที่อาจได้รับความเสี่ยงจ่อการเป็นโรคหัวใจหลอดเลี้ยงหัวใจตีบ ดังนั้น หากคุณมีอาการดังกล่าวบ่อย ๆ เป็นแล้วไม่หายสักที แนะนำให้ไปพบแพทย์จะดีที่สุด

โรคปอด เป็นโรคที่พบเจอได้บ่อยมาก ๆ ซึ่งถือว่าเป็นโรคที่ใกล้ตัวมากๆ ทั้งยังเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ง่ายอีกด้วย โดยโรคปอด เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ แน่นอนว่าผู้ที่รู้สึกว่าตนเองหายใจลำบาก หรือหายใจติดขัด เหนื่อยง่าย หรืออาการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ แน่นอนได้เลยว่าคุณกำลังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดได้สูงมากๆ เนื่องจากว่าเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ง่าย ยิ่งถ้าคนที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ได้สูงมากๆ

โรคอื่นๆ อาการเหนื่อยง่าย หรือใจสั่น โดยปกติแล้วก็เป็นเหมือนกับอาการปกติทั่วไปที่เกิดขึ้น ทำให้หลายๆ คนนั้นชะล่าใจ จนส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้าย และเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ โดยเฉาะอาการบาดเจ็บที่ทรวงอก ซึ่งอาการเหล่านี้นอกจากจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและโรคปอดแล้วนั้น ยังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย อาทิเช่น โรคจมูกอักเสบเรื้อรัง โรคคัดจมูก หรืออาการแพ้อาหาร โรคคอพอกเป็นพิษ โรคกรดไหลย้อน หรือแม้แต่อาการพิการของกระดูกทรวงอก เป็นต้น 

ได้รับการสนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟัง