ข่าวที่น่าสนใจ

ลุงของน้องการ์ตูนออกมายืนยันว่าเธอไม่ใช่พยาบาลและจบเพียงแค่ ม. 3 เท่านั้น 

       จากกรณีที่หญิงสาวคนหนึ่งพยาบาลถ่ายรูปคู่กับแฟนที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและยังมีรูปของเธอใส่ชุดพยาบาลเต้นในเว็บติ๊กต๊อกจนมีเพจของพยาบาลออกมาพูดถึงหญิงสาวคนดังกล่าวว่าเธอนั้นไม่ใช่พยาบาลวิชาชีพจริงๆแต่เป็นคนที่ใส่ชุดพยาบาลแล้วไปหลอกคนอื่นว่าเป็นพยาบาลโดยยังมีการระบุชื่อและอาชีพเดิมของเธอว่าหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นชื่อว่าน้องการ์ตูน

โดยเธอนั้นมีอาชีพเป็นสาวเชียร์เบียร์ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เกิดเป็นกระแสดราม่าจนโด่งดังใหญ่โตส่งผลให้น้องการ์ตูนนั้นต้องถูกแฟนหนุ่มบังคับให้ห่างกันแล้วไปเคลียร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ได้เสียก่อนรวมถึงยังมีหลายคนที่ออกมาแฉพฤติกรรมของน้องการ์ตูนว่ามักจะชอบแต่งเครื่องแบบพยาบาลและไปหลอกไม่ว่าจะเป็นทหารหรือตำรวจรวมถึงหลอกเอาเงินผู้ชายหลายคนซึ่งแต่ละคนนั้นก็ได้มีการออกมาแฉพฤติกรรมน้องการ์ตูนกันไม่หยุดหย่อน

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อนักข่าวมีการถามกับน้องการ์ตูนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยยืนยันว่าเธอจะดำเนินคดีกับคนที่มายุ่งเรื่องส่วนตัวของเธอทั้งหมดโดยเธอบอกว่าเธอมีเอกสารที่จะสามารถบ่งบอกได้ว่าเธอนั้นไม่ได้โกหกใครและเธอจะต้องดำเนินคดีกับบุคคลที่มีส่วนร่วมในการนำข้อมูลส่วนตัวเธอออกมาพูดในครั้งนี้ซึ่งกระแสดราม่านี้ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนั้นนักข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังพื้นที่ระบุว่าเป็นบ้านเกิดของน้องการ์ตูนซึ่งเมื่อไปถึงนั้นไม่ได้พบพ่อกับแม่ของน้องการ์ตูนเพียงแค่ลงของน้องการ์ตูนเท่านั้นโดยบอกว่าพ่อแม่ของน้องการ์ตูนนั้น

เลิกรากันไปนานแล้วและตอนนี้แม่ของน้องประตูนั้นก็ไปทำงานอยู่ที่จังหวัดชลบุรีซึ่งได้สามีฝรั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วส่วนทางด้านน้องการ์ตูนนั้นปกติแล้วจะไม่ค่อยสนิทกับญาติพี่น้องสักเท่าไหร่แต่ลุงของน้องการ์ตูนยืนยันได้ว่าน้องการ์ตูนนั้นไม่ได้เรียนพยาบาลแน่นอนเพราะตอนที่อยู่ที่หมู่บ้านนั้นน้องการ์ตูนจบแค่เพียงม 3 เท่านั้น

และลุงก็ยืนยันว่าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าน้องการ์ตูนไปเรียนต่อพยาบาลตอนที่กลับมาเยี่ยมคนที่บ้านก็ไม่เคยบอกกล่าวว่าตนเองเป็นพยาบาลหรือไม่เคยใส่ชุดพยาบาลมาให้เห็นอย่างไรก็ตามลุงของน้องการ์ตูนได้ฝากเรื่องนี้ถึงน้องการ์ตูนว่าอยากจะให้ออกมายอมรับผิดกับสังคมและมาขอโทษสังคมซึ่งเชื่อว่าทุกคนนั้นพร้อมจะให้หลายคนผิดยอมรับผิดแต่โดยดีรวมถึงญาติพี่น้องของน้องการ์ตูนนั้นก็ยืนยันว่าทุกคนนั้นยังรักน้องการ์ตูนและไม่มีใครโกรธเคืองน้องสักคนเลย

        สำหรับเรื่องนี้ต้องรอดูกันต่อไปว่าหลังจากที่มีคนออกมาแฉเรื่องราวเยอะแยะมากขนาดนี้รวมถึงญาติพี่น้องของเธอก็ออกมายืนยันแล้วว่าเธอไม่ได้จบพยาบาลจริงๆที่สุดแล้วเธอจะออกมาพูดกับสังคมว่าอย่างไรจะยอมรับความผิดนี้หรือไม่

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  แทงหวยจับยี่กี

ข่าวที่น่าสนใจ

โรงเรียนสารสาสน์ร่มเกล้ามีเคสครูชาวต่างชาติ ทำรุนแรงกับเด็กอนุบาล

            กระแสความร้อนแรงของโรงเรียนที่มีคุณครูทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนนั้นยังคงมีอยู่ต่อเนื่องไม่ใช่เฉพาะแค่โรงเรียนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลเพียงเท่านั้นเด็กโรงเรียนอื่นๆจากทั่วทุกจังหวัดก็มีกระแสออกมาอย่างสม่ำเสมอหลังจากที่ล่าสุดนั้นได้มีผู้ปกครองของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ออกมาแฉพฤติกรรมของคุณครูในโรงเรียนว่ามีการทำร้ายร่างกายเด็กโดยมีคลิปวีดีโอเป็นหลักฐาน 

           ซึ่งเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายร่างกายนั้นในขั้นต้นพบว่าเป็นเด็กอนุบาล 1 ซึ่งเด็กกลุ่มนี้มีอายุเพียงแค่ 3 ขวบเท่านั้นแต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีการสืบเชิงลึกไปเรื่อยๆกลับพบว่าโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์นั้นมีคุณครูที่ทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนนั้นหลายคนและเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายร่างกายก็มีหลายชั้นด้วยกันอย่างล่าสุดก็มีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้นป 2 กับชั้นป 5 ออกมาเล่าถึงพฤติกรรมของคุณครูที่ใช้ไม้กวาดตีเด็กรวมถึงยังมีการไล่ให้เด็กไปฆ่าตัวตายนั่นเอง 

         และแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงเฉพาะแค่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์แถวนั้นกำลังที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ยังมีโรงเรียนสารสาสน์ในเครืออื่นๆอีกมากมายที่ผู้ปกครองต่างพากันมารวมตัวกันที่โรงเรียนเพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดเนื่องจากว่าเกรงว่าลูกหลานของตนเองจะถูกคุณครูทำร้ายร่างกายเหมือนกับที่โรงเรียนสารสาสน์ราชพฤกษ์นั่นเอง

       และแน่นอนว่าเมื่อมีการให้ดูกล้องวงจรปิดปรากฏว่ามีผู้ปกครองหลายคนที่ได้เห็นว่าคุณครูของโรงเรียนในเครือสารสาสน์สาขาอื่นนั้นก็มีการทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนเช่นเดียวกันยังล่าสุดมีผู้ปกครองของโรงเรียนสารสาสน์ร่มเกล้าได้ออกมารวมตัวกันเพื่อเจรจากับทางโรงเรียนเนื่องจากว่าเด็กนักเรียนในชั้นอนุบาล 3 ได้กลับไปบอกผู้ปกครองว่าตนเองนั้นถูกคุณครูทำร้ายร่างกายด้วยการบีบคอหลังจากนั้นก็ลากเด็กคนดังกล่าวนั้นไปที่บริเวณหน้าห้องซึ่งคุณครูที่ทำร้ายร่างกายเด็กในครั้งนี้เป็นคุณครูชาวต่างชาติ

          เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทำให้ผู้ปกครองหลายคนต่างก็พามารวมตัวกันที่โรงเรียนเพื่อที่จะเรียกร้องให้ทางโรงเรียนนั้นได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดโดยผู้ปกครองจะได้สามารถเข้าไปทำการเช็คสถานะการการเรียนของบุตรหลานของตนเองได้ว่าในแต่ละวันนั้นบุตรหลานของตนเองนั้นมีพฤติกรรมอย่างไรและถูกคุณครูทำร้ายร่างกายหรือไม่โดยมีการล่ารายชื่อจำนวนผู้ปกครองมาจำนวนทั้งสิ้น 500 คนด้วยกันหลังจากนั้นก็ยื่นให้กับผู้อำนวยการโรงเรียน

           ซึ่งทางผู้ปกครองยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เด็กนักเรียนอนุบาล 3 ถูกคุณครูต่างชาติทำร้ายร่างกายนั้นเป็นเรื่องจริงและมีหลักฐานเป็นเพื่อนๆหลายคนที่อยู่ในชั้นเรียนที่เห็นเหตุการณ์ด้วยกันทั้งหมดสามารถให้เด็กนักเรียนเหล่านั้นมาเป็นพยานได้ 

 

สนับสนุนโดย    แทงหวยจับยี่กี